Search
Close this search box.

CRYBABY ของเล่นสะสมหลักแสน ฝีมือคนไทย

CRYBABY ช่วงเดือนนี้หลายคนน่าจะเห็นน้องแก้มป่องน้ำตาซึม Crybaby ผ่านหน้าฟีดกันอยู่บ่อย ๆ เพราะเหล่าน้อง ๆ POP MART กำลังจัดแสดงอยู่ที่ Anywhere ในชื่อนิทรรศการ Cry Me A River พื้นที่ที่ มด-นิสา ศรีคำดี หรือ มอลลี่ ศิลปินเจ้าของคาแรกเตอร์ Pop Mart 2024 ตั้งใจอยากให้ผู้ชมได้มาระบายความเศร้าหรือเรื่องที่อัดอั้นอยู่ในใจด้วยความคิดที่ว่า “ทุก ๆ ด้านอารมณ์ของตัวเรามันควรจะโอเค” หลังจากที่เธอตั้งคำถามและให้ความสนใจในประเด็นนี้อยู่เสมอว่า เหตุใดคนเราจึงพยายามจะเปิดเผยเฉพาะด้านที่มีความสุขเท่านั้น Pucky

รู้จัก ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลัง “CRYBABY” ของเล่นสะสมหลักแสน ฝีมือคนไทย

CRYBABY ทำไมคนเราถึงต้องแสดงความสุข ให้ผู้อื่นเห็นเพียงด้านเดียว ? แล้วหากรู้สึกเศร้าหรืออ่อนแอ เราต้องซ่อนความรู้สึกเหล่านี้ไว้เหรอ ?วันนี้จะพาไปพบกับนิทรรศการ “Cry Me A River” งานศิลปะที่เต็มไปด้วยน้ำตา ที่จะทำให้เรารู้จักกับความเศร้าหลายรูปแบบ รวมถึงรู้สึกว่า POP MART ร้องไห้บ้างก็ไม่เป็นไรซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังนิทรรศการนี้ ก็คือคุณมด-นิสา ศรีคำดี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คุณมอลลี่” ผู้สร้างสรรค์ผลงาน “ของเล่นสะสมไทย” ให้ดังไกลถึงเมืองนอกโดยคุณมอลลี่ มีชื่อเสียงในวงการของเล่นสะสม ในระดับเอเชียเลยทีเดียวเรื่องราวของคุณมอลลี่ น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังคุณมอลลี่ เป็นศิลปินผู้ผลิตของเล่นสะสม ที่มีแครักเตอร์หลัก คือ “CRYBABY” หรือ เด็กน้อยที่ทำหน้าตาเศร้าสร้อย ที่มาพร้อมกับหยดน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลาหลาย ๆ คนมักสงสัยว่าทำไมแครักเตอร์นี้ถึงต้องมีน้ำตา ? Pucky

คำตอบก็คือ จริง ๆ แล้ว คุณมอลลี่เป็นคนที่ชอบมูฟเมนต์ของ “น้ำตา” และมักจะจดบันทึกเรื่องราวความเศร้าไว้ในไดอารีเสมอมาดังนั้น “น้ำตา” จึงเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างแครักเตอร์ของเธอนอกจากนั้นเธอยังคิดว่า การหลั่งน้ำตาออกมาหนึ่งครั้ง ต้องผ่านกระบวนการคิดหลากหลายมิติซึ่งบางครั้ง น้ำตาก็ไม่ได้เกิดขึ้น แค่ตอนที่เราเศร้าเพียงอย่างเดียว แต่อาจหลั่งออกมาพร้อมกับความตื้นตัน ดีใจ รวมถึงตอนที่มีความสุขได้เช่นกันดังนั้น การร้องไห้ จึงไม่ได้หมายความว่าเราอ่อนแอเสมอไป Pop Mart 2024

และถึงแม้ว่าเราจะอ่อนแอจริง ๆ การแสดงด้านนั้นออกมา ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดซึ่งในนิทรรศการ “Cry Me A River” ตัวแครักเตอร์ CRYBABY นี้ ก็ถูกใช้เป็นตัวแสดงหลักในงานด้วยเช่นกัน
โดยมาพร้อมคอนเซปต์ Pop Mart 2024 “พื้นที่สำหรับทุกคน ได้มาแชร์ความเศร้า และร้องไห้ไปด้วยกัน” ผ่านการจัดแสดงผลงานภาพวาด, รูปปั้น และของสะสมแครักเตอร์ CRYBABY ในท่าทางต่าง ๆ เกือบ 20 ชิ้น

ที่น่าสนใจก็คือผลงานเหล่านี้ ถูกจับจองเกือบหมด ภายในเวลาไม่ถึงนาที หลังจากเปิดตัวนิทรรศการ โดยแต่ละชิ้นงานก็มีมูลค่าตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านบาทและหากเราลองคำนวณคร่าว ๆ ผลงานทั้งหมดในนิทรรศการนี้ จะมีมูลค่ารวมกัน มากกว่าสิบล้านบาทเลยทีเดียวที่สำคัญงานนี้ ยังเป็นการจัดนิทรรศการเดี่ยว Pucky

ครั้งแรกของคุณมอลลี่อีกด้วยอ่านมาถึงตรงนี้ ก็ถือว่าคุณมอลลี่เป็นหนึ่งในศิลปินของเล่นสะสม ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จเลยทีเดียวแต่รู้หรือไม่ว่า คุณมอลลี่เพิ่งเริ่มต้นสร้าง CRYBABY ได้เพียง 5 ปี และก่อนหน้านั้น งานที่เธอทำก็ไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างสรรค์ของเล่นอีกด้วยย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อน หลังจากที่คุณมอลลี่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์คุณมอลลี่ ได้เลือกไปทำงานทางสายออกแบบและกราฟิกดีไซน์ ของบริษัทวางแผนจัดการสำหรับงานแต่ง POP MART

Cry Me A River

เป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของมอลลี่ Pop Mart 2024 แต่หากใครรู้สึกคุ้นเคยก็ไม่แปลกเพราะ Crybaby เดินเส้นทางอาร์ตทอยมาก่อนหน้านี้แล้วถึง 5 ปีนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2017 โดยที่จุดเริ่มต้นสะสมมาจากความสนใจตั้งแต่เด็กของมอลลี่ที่วนเวียนหลงใหลอยู่กับของเล่น ศิลปะ และงานประดิษฐ์ทำมือ ไม่ว่าจะเป็นการเย็บตุ๊กตา POP MART ถักโครเชต์ ทำตุ๊กตากระดาษ สะสมโมเดลรถหรือการวาดรูปลงสี เธอมักจะทำขึ้นเองทั้งหมด จนวันหนึ่งที่มีเวลาจากการว่างงาน เธอจึงตัดสินใจขลุกอยู่กับการปั้นและสเก็ตช์อาร์ตทอย สานฝันวัยเด็กที่อยากเป็นนักออกแบบของเล่นเพื่อที่วันหนึ่งจะได้มีของเล่นเยอะ ๆ โดยไม่ได้คิดมาก่อนว่าสิ่งนี้จะกลายมาเป็นเส้นทางหลักของเธอ Pucky

“ตอนแรกเราไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งนี้จะมาเป็นอาชีพ แต่แค่คิดว่าได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ตั้งแต่เช้าเราตื่นมาก็คือเริ่มปั้นและสเก็ตช์ ปั้นแล้วเฉือนทิ้งวนไปอย่างนั้น ตั้งแต่ 6 โมงถึงตี 2-3 ของทุกวัน กินข้าวก็ถือมันไว้ นอนก็เอามานอนด้วย มันเหมือนเราชอบมาก ๆ เราเลยให้เวลากับมันอย่างเต็มที่เป็นเวลาประมาณ 2 เดือนจนออกมารู้สึกว่าเราชอบแล้วเลยได้ต้นแบบน้อง Crybaby ขึ้นมา พอดีกับตอนนั้นเราเพิ่งเริ่มเล่นอินสตาแกรม เราถ่ายรูปลงแล้วก็ใส่แฮชแท็กเกี่ยวกับทอยลงไป พอดีมีคนจีนคนหนึ่งเขาเห็น เขาส่งข้อความมาตลอดเลยว่าเมื่อไรจะทำขาย POP MART

อย่างที่บอกว่าเมื่อก่อนเราไม่รู้เลยว่ามันมีอะไรแบบนี้อยู่ด้วย เราเลยไม่ได้สนใจ ผ่านไปหลายเดือน เขาก็ยังส่งข้อความมาทุกวันคอยถามว่าขายเมื่อไรขายได้ไหม จนวันหนึ่งเราคิดว่าลองทำดูแล้วกัน จำได้ว่าแรก ๆ เราตั้งราคาไว้ถูกมากเพราะไม่ได้คิดว่าจะมีคนสนใจจริง ๆ แล้วคนจีนคนนั้นเขาก็เอารูปไปโพสต์ในแชตกรุ๊ปที่ประเทศจีน หลังจากนั้นก็เหมือนตู้มเลย เพราะแชตกรุ๊ปที่จีนเขามีจำนวนคนเยอะมาก ทำให้มีคนสนใจเยอะ ตั้งแต่วันนั้นเราเลยเหมือนได้เข้าสู่วงการอาร์ตทอยเต็มตัว ได้ไปโชว์งานต่างประเทศอย่างฮ่องกง จีน ไปร่วมงานกับเขาที่นู่นด้วย Pop Mart 2024

บทความแนะนำ